"ตำหนิ ผู้ฝึกสอนมาดริดในเวลานั้นจัดทัพลงในสนามระบบ 4-3-3 โดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้, คาริม เบนเซม่า กับ เอ็งเร็ธ เบล เป็นสามแนวรุก ส่วน ฮาเมส ลงล็อก 3 แดนกึ่งกลางกับ ลูก้า โมดริช และก็ โทนี่ โครส แผนของเทรนเนอร์อิตาเลียนใช้ได้ผลในทางที่ดี แม้จะมีปัญหากับการเล่นเกมคุ้มครองป้องกันอยู่บ้างก็ตามสถานการณ์เอื้อประโยชน์ต่อการเล่นของ ฮาเมส มากขึ้นเรื่อยๆข้างหลังการบาดเจ็บของ เบล ก่อน'อันเช่'จะปรับหมากมาเล่นระบบ 4-4-2 โดยปลดปล่อยให้ ฮาเมส กับ อีสเก๋ อาลาร์กอน เป็นตัวเดินเกมรุกขอบเส้น
แต่สถานะของผู้เล่นคนสำคัญเริ่มคลอนแคลนข้างหลัง เบล ฟิตกลับมาพร้อมลงในสนาม อันเชล็อตติ ปรับมาเล่นระบบ 4-3-3 อีกรอบ แต่ ฮาเมส ไม่ใช่นักฟุตบอลที่มีความแข็งแกร่งเหมือน ดิ มาเรีย การเล่นฤดูกาลนั้นของเพลย์เมกเกอร์ชาวโคลอมเบียนลงเอยด้วยความผิดหวังก่อนผู้ฝึกสอนจะถูกให้ออกจากตำแหน่งหลังจากนั้นช่วงซัมเมอร์ดังที่ได้กล่าวมาแล้วให้โอกาสให้ ฮาเมส ฟื้นความมั่นใจกลับมาข้างหลังเผชิญซีซั่นที่ค่อนข้างเครียดในการค้าแข้งปีแรกที่มาดริด เขาได้โอกาสจะเริ่มต้นกับเทรนเนอร์คนใหม่ ราฟาเอล เบนีเตซ แต่อาการบาดเจ็บกลายเป็นอุปสรรคของ ฮาเมส จนไม่มีส่วนร่วมกับช่วงปรีซีซั่นยุค'เอล ราฟา'แม้ ฮาเมส จะฟิตกลับมาลงไปในสนามอีกรอบ แต่ว่าเขาเล่นได้ดีเฉพาะบางเกม ไม่สามารถที่จะยืนระยะหรือรักษาความสม่ำเสมออย่างที่เทรนเนอร์มุ่งหวัง เขามีโอกาสลงเล่นเพียง 14 เกมภายใต้การดูแลของ ราฟาเอล เบตีเนซ ก่อน'เอล ราฟา'จะลาออกจากตำแหน่ง เมื่อ ซีเนดีน ซีดาน ถูกโปรโมตจาก เรอัล มาดริด ข่าวกีฬา กาสตีย่า ขึ้นมากุมบังเหียนกลุ่มชุดใหญ่เต็มตัวเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2016 โน่นคือจุดแปลงของ ฮาเมส โรดรีเกซ เป็นจุดเริ่มของจุดล่มจมของแข้งชาวโคลอมเบียนเขาได้โอกาส
"